unlimit

want it's the starting point. make you outside the comfort zonemake you brave

The best of both worlds

if you want to change your life. go anywhere and touch

when you lost passion . you should find something complete youself.

If u want to go somewhere. Take a ticket and go.

19.10.59

DAY 2 ตื่นมาแล้วรุ้สึกว่า " มีความสุขจัง "

     วันที่ 2 เป็นวันที่ตื่นมาแล้วรู้สึกดีมากๆ เราตั้งนาฬิกาปลุกตี 5 แอบเกรงใจห้องข้างๆ แต่ก็กลัวจะไม่ตื่น นาริตะ 8 องศา เราภาวนาให้หิมะตก เพราะอยากเห็นมาก (ที่ตกดันเป็นฝนไม่ใช่หิมะ)








อาบน้ำแต่งหน้า แต่งตัว ระหว่างนี้ก็มีคนตื่นมาบ้างแล้ว ต่างชาติก็เยอะ คนญี่ปุ่นก็มี มารอบนี้เราซื้อไวไฟของ ซามูไร เนตแรงมาก สัญญาณดีตลอดการใช้งาน แบตทนไม่หมดไว 1 เครื่องแชร์ได้ถึง 10 คนเลย ตอนนั้นมีโปร 7 วัน วันละ 200 วันถัดไปวันละ 100 ถ้าไปหลายคนก็หารค่าเช่าเอา





--------------------------------------------------------------


ตื่นละก็หิวเป็นเรื่องธรรมดา (แต่ที่ไม่ธรรมดาคือท้องผูกนี่ล่ะ ทำใจไม่ได้กับส้วมที่นี่ ทนไป)
เราเข้ามาซื้อข้าวในเซเว่นเหมือนเดิมแต่ตอนนี้งงกับเหรียญ เหรียญที่นี่บางอันค่อนข้างมีมูลค่าพอๆกับแบงค์เลย บางอันเราก็ไม่รู้ว่าใช้ยังไง อย่างเหรียญเล็กๆ สีน้ำตาล ตรงกลางมีรู เหลือกลับไทยบาน





ข้าวหน้าเบคอนอร่อย หมูเยอะมาก มื้อนี้หมดไปประมาณ 200 วันแรกเราไปมีปัญหากับน้ำกินนะ เพราะอยากกินน้ำเปล่า เห็นใสๆนี่มันไม่เปล่านะ บางอันเป็นโซดา บางอันผสมกลิ่นพีช ส้ม บางแหละ มันจะหวานนิดๆ แต่คือนี่อยากกินน้ำเฉยๆ อีกอัน ชานม ชาที่นี่เยอะก็จริง แต่หารสชาติคล้ายๆ บ้านเราไม่ได้เลย ถ้าอยู่นานๆ จะต้องมีอาการเบื่อ 



--------------------------------------------------------------

กินเสร็จก็มารอซื้อตั๋วเข้าโตเกียว อันนี้เราอ่านจาก Google มาพอสมควร Limousine ฮิตสุด ง่ายสุด สำหรับนักท่องเที่ยวหน้าใหม่ ราคาประมาณ 1000 บาท ส่งถึงชินจุกุ มีรอบเยอะ แต่ดึกๆประมาณทุ่มนึงจะหมดละ  จาก 9h มาซื้อตั๋ว ขึ้นบรรไดเลื่อนมา 1 ชั้น ซื้อตั๋วเสร็จเดินออกนอกประตู รอรถด้านหน้าได้เลย 






ถ้าใครมาถึงก่อนก็เอากระเป๋าไปวางได้เลย พอรถมาก็จะมีพนักงานมาตรวจตั๋วและก็ผูกป้ายกับกระเป๋า เสร็จแล้วเราก็ขึ้นไปเลือกที่นั่งตามสบาย เราเลือกนั่งหน้าสุด เพราะต้องการดูวิว (เห็นแบบนี้อากาศโคตรหนาวเลยเพราะตอนเช้าฝนตก นี่ไม่ได้ซื้อถุงมือ เสื้อกันหนาวก็สอดมือไม่ได้ มือแข็ง)




เราเลือกนั่งหน้าสุด เพราะอยากเห็นวิวแบบเยอะๆ ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ วิวสวยมาก เห็นตั้งแต่ป่า ไร่ ต้นไม้เปลี่ยนสี ฝน ทะเล พอเริ่มเข้าเมืองนี่ค่อนข้างรู้สึกอึดอัด ส่วนใหญ่คือจากถนนก็เป็นบ้านเลย ทางเท้าค่อนข้างน้อย พอเข้าใจกลางเมืองก็ดีขึ้นหน่อย

----------------------------------------------------------------


รถจะมาส่งที่ป้าย ที่ชินจุกุ ฝั่งตรงข้ามนี่เป็นห้างอะไรซักอย่างดังยุ จำชื่อไม่ได้ นี่ก็ลากกระเป๋าขึ้นบรรไดเลื่อนจะไปเข้าห้องน้ำ ลืมว่ามีลิฟ T_T


----------------------------------------------------------------

นั่งรถไฟไปชิบุย่า 1 สถานี ประมาณ 170 เยน จาชินจุกุไปชิบุย่า 2 สถานีมั้ง เดินขึ้น เดินลง เหนื่อยยุ



ถึงแล๋นนน ตอนนี้อากาศหนาวนะ + ฝนตก นางไม่กลัวจ้า ถุงน่องบางเพียวๆ เลยจ่ะ รอบหน้าไปจะไม่ยอม (ใส่ลองจอน ละแต่งตัวยากจิงจัง) เราอยู่ชิบุย่า นานเหมือนกัน เดินตามซอย เดินเข้าแทบทุกร้าน เช๊คราคาของ (เห็นเค้าขายในเนต รับพรีกันเยอะเลยอยากรู้ราคาของจริงว่ามันถูกกว่าเยอะไหม) แต่ละร้านราคาไม่เท่ากันเลย มันขึ้นอยู่กับว่าขายที่ไหน ร้านข้างทางก็จะถูกกว่าห้าง


ตึก109 มั้งนะ คล้ายๆแพตตินั่มบ้านเรา คนแต่งตัวเด็ดๆทั้งนั้น ในห้องน้ำก็จะมีผญแต่งตัว ทำผมถึงขั้นเอาที่ลอนผมมาเสียบเลย ในความคิดเรา ผู้ญ ญี่ปุ่นมุ้งมิ้งนะ น่าทนุถนอมดี  (บางอารมณ์ก็มากไป)





ไปญี่ปุ่นทั้งที ต้องได้รองเท้า เดินหาแบบที่อยากได้นานมาก โดยเฉพาะไซร์ 24.5 มาร้านนี้ดูดีมาก พนักงานหล่อ คล้ายๆ เด็กมาทำพาสทาม แล้วก็รองเท้า รุ่นที่หายากๆ ร้านนี้มี สวยด้วย Atmos มั้งนะ มีหลายสาขา ก็สอย Nike ร้านนี้ไป


----------------------------------------------------------------

พอเสร็จนี่ ก็ต้องไป >> Disneyland ตอนที่จะมา ไม่เคยมียุในลิสเลยว่าจะต้องเที่ยว เพราะไม่ชอบเด็ก เข้าขั้นรำคาญ แต่เค้าบอกว่ามาญี่ปุ่น มันต้องมา 


เดินทางด้วยรถไฟนี่ล่ะ ถูกสุดละ เดินขึ้น เดินลงเยอะหน่อย อ่อ เผื่อคนสงสัย ช่วงที่เดินชิบุย่า นี่ฝากเป๋าไว้ในตู้ล๊อกเกอร์ 3 ชม 1000 เยนมั้งนะ มีราคา 500 ,1000 เยน เหรียญเท่านั้น โนแบงค์ นั่งรถไฟ ไม่ได้นั่งต่อเดียวถึงนาจา ต้องลง 1 สถานี แล้วหันหน้าไปอีกฝั่ง เพื่อต่อไปดิสนี่



ถึงแล้ว ลงรถไฟปุ๊บก็ถึงทางเดินเข้าเลย  ระหว่างที่เดินเข้า คนเค้าก็เดินออกกันนะ 


คนที่มาก็เท่าที่เห็น เพราะตอนนี้ทุ่มนึงแล้ว สวนสนุกปิด 4 ทุ่มมั้งนะ


อันนี้ Hostel Disneyland ฝั่งตรงข้ามจะเป็นสวนสนุก ตรงกลางมีรถไฟของดิสนี่ คืนนี้เราจะนอนนี่ 

คนก็โล่งๆ ดูส่วนตั๊ว ส่วนตัว

ทางขึ้นเข้าห้องโถงเช๊คอิน  ได้ฟิลเจ้าหญิง ตัวการ์ตูนของดิสนี่อ่า


อันนี้โถงที่บอก อย่างกับเรือไทเทนิค ตอนแรกไม่อยากมา ตอนนี้เปลี่ยนใจ ขออยู่ตลอดไปเลยดีกว่า



Check-in ka พนักงานทุกคนแต่งตัวเหมือนในการ์ตูนเลย ปากกา สมุด ทุกอย่าง เอาออกมาจากในหนังชัดๆ  



ได้กุญแจแล้วก็ไปเล๋ยยยย คนก็ไม่ค่อยมีอีกแหละ สงสัยนอนกัน ชอบทางเดินเข้าห้องนะ สวยดี เหมือนเขาวงกต 




ห้องที่เราพัก จะหันไปทางปราสาทพอดี 


ของที่วางอยุ่ตรงนั้น เก็บกลับเกลี้ยงอ่ะ ไม่เหลือ (เค้าให้ฟรี)






ตอนนี้ก็ประมาณทุ่มครึ่งพอดี ตัวอยู่ในรั้วดิสนี่แล้ว มีหรือจะนอน ไปค่ะ ไปเล่นกานนน


(คนข้างหลังนี่อ้วนไปนะ จีจี)


มาดิสนี่ ต้องมีพรอป เข้าไปในปาค มีทั้งหมวก ทั้งมือ ทั้งเสื้อ มากันเป็นทีมเลย






จากนี่ > ไป Disney see สร้างหลัง land ต้องนั่งรถไฟของที่นี่




----------------------------------------------------------------
รถไฟขบวนนี้จะวนรอบทั้ง Disney land และก็ Disney see เลย



ตอนดึกๆ ส่วนใหญ่จะมีแบบเป็นคู่ๆ ละก็ผู้ใหญ่ละ เด็กกลับกันหมด โชคดีหน่อยไม่ค่อยมีเด็ก


โล่งเชีย  ที่ขายตั๋ว ไม่ต้องต่อแถวซื้อ เลยเข้าได้เลย ตอนจองโรงแรมก็ซื้อบัตรเข้าที่นี่มาด้วย


 มันมืด ถ่ายอะไรไม่ค่อยได้ อย่าว่าแต่ถ่ายเลย คนที่อยู่ยังไม่ค่อยจะเห็นเพราะเค้าปิดไฟ





Disney see มันก็ต้องมี see เนอะ ทะเลสาปอันนี้กว้างมาก เราไปช่วงใกล้คริสมาสพอดี การแสดงก็จะเยอะ แถมอากาศหนาว + ลมทะเล เราไม่ชัวว่ามันน้ำทะเลจริงๆไหม ไว้ปีหน้าจะไปพิสูจน์ แล้วก็ตรงภูเขาอันนั้น มันเป็นเครื่องเล่นนะ คล้ายๆรถไฟเหาะ นี่ไปเล่นไม่ทันเพราะมันใกล้จะปิด เรายืนอยู่ตรงนี้นานมาก เพราะมันเป็นมุมที่สวยที่สุดก็ว่าได้ ลมเย็นๆพัดเข้าหน้าตลอดตอนนั้นคิดว่า เราโชคดีจังที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ต่อให้เรากลับไทยแล้วต้องทำงานหนักๆ แล้วได้มาแบบนี้ เราก็ยอม


อีก 1 เครื่องเล่นที่ห้ามพลาด เค้าเรียกๆกันว่า ลิฟต์ ไม่รู้หรอกว่าเป็นไง กลัวนะ กลัวที่สูงมากๆๆ แต่เรานั่งเครื่องข้ามน้ำ ข้ามทะเลมาตั้งไกล ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่ลอง ตอนนั้นคิดว่า ซักครั้งในชีวิต เอ้าจัดก็จัด



1.30 ชม เวลาที่เรารอ คนเยอะชิบ พอได้ต่อแถวใจเริ่มฟ่อ เสียงกรี๊ดก็ดังจังเลย แต่วิวแถวนั้นดีนะ คนข้างหลังเรานี่ เด็กมหาลัยมากัน 6-8 คน ข้างหน้าก็แก๊งนักเรียนมัธยม มากับแฟนมุ้งมิ้งก็มีแต่งตัวเหมือนกันอีก อากาศมันหนาวชะ เค้าก็เอามือไปถูๆไถๆให้ จับมือกันงี้ อืม ดีจิง


อ่ะ รูปเต็ม ไปเล่นมาและ สูงเท่ากับตึกกี่ชั้นไม่รู้ แต่ปราสาทนี่สูงที่สุดใน ดินนี่ซี บอกคำเดียวเลยว่า แทบจะร้องขอชีวิต  3 นาที ที่แบบ กุมาทำอะไรบนเน้ๆๆๆๆๆ  มี 10 ใน 10 เสียวสุดติ่ง 
- Review -
ตอนแรกเข้าบ้านไป เค้าจะมีบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น ซักอย่าง เสร็จแล้วจะจัดแถว บางคนได้แยกกับเพื่อนก็มี 1 แถวมี 4 คน ข้างในสวยงามตามท้องเรื่อง พอจัดแถวเสร็จ เค้าจะให้เราเข้าไปในห้องมืดๆ มีที่ให้นั่ง บวกเข็มขัด พนักงานก็จะเดินตรวจว่าทุกคนใส่ครบไหม เสร็จปุ๊บ เค้าจะปิดประตู บายๆเรา ซักพักเสียงเจ้าของปราสาทมาละ เน้นว่าตอนนั้นทุกอย่างมืดนะ ละเริ่มมีแสง เขียวๆ ค่อยๆเลื่อนขึ้นแบบเบาๆ ตอนแรกนึกว่า ฝั่งนั้นอ่ะเลื่อน ส่วนเรายุเฉยๆ พอลิฟเปิดเท่านั้นล่ะจ้า โอโหเห็นยันปราสาทฝั่งLand แล้วมันปล่อยเราเร็วมาก เสร็จก็กระชาก หยุด - ปล่อย แบบนี้ แล้วเราไม่ได้เห็นข้างนอกตลอดนะ จะเห็นเป็นพักๆ ข้างในก็มืดๆ อยู่แบบนี้ 3 นาที 



----------------------------------------------------------------
กว่าจะต่อแถว กว่าจะได้เล่น Disney see ก็จะปิดพอดี อาหารในรร ไม่มีบริการแล้ว ก็หาร้านกินในนี้เลย ร้านนี้ขึ้นชื่อมาก ร้านใหญ่ๆ อยู่ใต้รร Disney see 




(เราเป็นคนชอบกินชีสมาก เลยสั่งเมนูนี้มา ประมาณพาสต้า ชีสกุ้ง ชีสทั้งถ้วย แถมซองชีสโรยหน้าไม่อั้น)



กินเสร็จก็นั่งรถไฟขบวนเดิม ไปพักที่รร Disney land 























Popular Posts

Sidebar Ads