unlimit

If u want to go somewhere. Take a ticket and go.

1.3.60

            Hongkong สุขไม่สุด 4 วัน 3 คืน 

หมายเหตุ
**** เอาตอนจบขึ้นรีวิวก่อน
**** รีวิวของเราอาจไม่สามารถแนะนำให้คนอื่นเที่ยวตามได้ 100% แต่มันอาจจะเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่คุณอาจจะไม่ได้เจอ  
**** เราเที่ยวตามสัญชาตญาณของเราล้วนๆเลย ไม่ค่อยอิงรีวิวอื่นๆ อยากไปไหนไป ตามที่ใจอยากไป ไม่ค่อยมีแพลนมากนัก 
**** เราเชื่อว่าคนทุกคนมี story ที่ต่างกัน เรื่องของเราก็เป็นอีก 1 ที่อยากแบ่งปันให้คนที่ชอบเที่ยวเหมือนเราได้ลองอ่านดู  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า

           ตอนนี้เราโคตรติดเพลงของวง HONNE เลย รู้จักเพลงแรก someone that loves you ตอนอยู่ฮ่องกง เพลงมันเพราะดี แต่ชื่อเพลงมันขึ้นเป็นภาษาจีน เลยหยิบโทรศัพท์มาถ่ายไว้ พอกลับไทยเปิด youtube เปิดเพลงฟังปกติดันขึ้นเพลงนี้เฉย พอมานั่งดู MV เอ่ยมันใช่อ่ะ เหมือนกุเลย T_T
           
            ตอนที่เราพักโรงแรมนี้ มันเป็นคืนสุดท้ายที่อยู่เราอยู่ฮ่องกง จริงๆอยากกลับตั้งแต่วันแรกเลย แต่ตั๋วมันจองไปแล้ว ที่เหลือคือประคองตัวเองให้อยู่ให้ได้อีก 3 วัน 2 คืน
เราตื่นมาเก็บของตอน 6 โมงเช้าเรียกว่าไม่ได้นอนเลย ได้หงีบตอนตี 3 หลับแบบงงๆ เราพักอยู่ชั้น 18 มองออกไปก็มีแต่ตึก อากาศก็มืดๆมัวๆหน่อย อากาศโคตรอำนวยอารมณ์เลย บอกตัวเองว่าจะได้กลับละนะ อดทนหน่อย

             พอเก็บของเสร็จ เตรียมตัวเช๊คเอ้าก่อน 12.00 นั่งพับซองจดหมาย ที่คิดว่าเป็นฉบับสุดท้ายแล้ว เราแนบกุหลาบ 1 ดอกไปกับจดหมาย และคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ....

" ถ้าให้เลือกอีกครั้งว่าจะบินไปฮ่องกงไหม คำตอบเดิมคือไป  
   ไม่เสียใจเลยที่ได้ไป แต่รู้สึกเสียดายกับสิ่งที่เสียไป  "
" เราพิมภาษาไทย คุณคงอ่านไม่ออก
  everything it's mean 我愛你
   ( i never think hurt u. 唔好意思 ) "

เวลาที่เหลือ ในฮ่องกงอีก 12 ชม อยากไปไหน เราก็ไปกับความรู้สึกอึนๆ แบบสุขแต่ไม่สุด

HONNE - someone that loves you
HONNE - women
HONNE - warm on a cold
HONNE - good together
HONNE - coastal love
**** เอาตอนจบมารีวิวก่อน
**** ส่วนเพลงของ Honne เพราะจริงๆ ความหมายโคตรโรแมนติก
#hongkong 4 วัน 3 คืน FEB2017 #hongkongสุขไม่สุด


                       ---------------------------------------------------------------------------------------------
       เข้าเรื่องกันเลย รอบนี้เราเลือกไปฮ่องกงเพราะ 50% อยากลองไปเที่ยวดูประเทศเล็กน่าจะเที่ยวคนเดียวง่าย อีก 50% คือเหตุผลทางใจล้วนๆเลย     

**รอบนี้เราลองนั่งสายการบิน Hongkong Airline 7500 รวมที่พัก 1 คืน ราคานี้รวมน้ำหนักไป-กลับแล้ว
**เราเปลี่ยนโรงแรมทุกคืน เพราะชอบเทสโรงแรม 
คืนแรก เรานอนที่ Kings Hotels (ดีงามมาก 10/10 เลย) เดี๋ยวเรามารีวิวโรมแรม  ราคา 2,200
คืนสอง เรานอนที่ iclub fortress hill (ไม่โออย่างแรงและแพงมาก 2/10) ราคา 2,900
คืนสุดท้ายจองพร้อมตั๋ว Grand Hotels (กลางๆทำเลอยู่ไกลที่ท่องเที่ยว ห้องกลางๆ 4/10) มากับตั๋ว

ราคาที่พัก + ตั๋วคร่าวๆ 



รอบนี้ถือว่าเป็นการเดินทางที่ใหม่ สำหรับหลายๆอย่าง 
- นั่งสายการบินใหม่ที่ไม่เคยนั่ง ถ้าเป็นของสัญชาติอื่นแน่นอนว่าประกาศบนเครื่อง Eng ล้วนๆ บางทีก็ฟังไม่ทัน ปล่อยผ่าน อ่านใบกระดาษเอา 
- เลือกเวลาเดินทางที่โคตรจะบ้าเลยสำหรับผู้หญิงคนเดียว 
  ขาไปตี 4 ออกจากบ้านไปสุวรรณภูมิตั้งแต่ตี 1 อย่างไกลค่า Taxi 400
  ขากลับบินตี 2 เดินทางตอนกลางคืนที่ฮ่องกง โอ้โห่ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะจ๊ะ

ก็มาทันเวลา เช๊คอินตามปกติ นั่งถ่ายรูปเช๊คของว่าครบไหม สิ่งที่เรามีติดตัวเวลาเราไปตปท
1.สมุดเล่มเล็ก ไว้จดวิธีเข้าเมือง วิธีออกจากสนามบิน เผื่อโทรศัพท์แบตหมด
2.จริงๆต้องแพลนว่าแต่ละวันจะไปไหน นั่งรถสายอะไร แต่รอบนี้คือเราแพลนไม่ทัน เพราะก่อนไปงานก็ยุ่งมาก
3. หนังสือภาษาของประเทศนั้นๆ 
4.แบตสำรอง สายชาร์ต หูฟัง 
5.แว่น 

*** ของครบ พร้อมลุยค่ะ รอดไม่รอด ก็ไปตายเอาดาบหน้า ภาษาได้ไม่มากก็มั่นหน้ามั่นตาไปก่อน อยากเที่ยว โนแคร์ค่ะ 



2 ชม 10 นาที ถึงฮ่องกง 

รีวิวเครื่องขาไป
เครื่องบินขาไปไม่โอเคเลย แทบจะร่อนเป็นนก เครื่องสั่นมาก มากที่สุด ปกติถ้าเราบิน เราจะเลือกที่นั่งติดปีกตลอด เห็นตำตาว่าปีกมันสั่นมาก นอนไม่ได้เลย เป็น 2 ชมที่ทรมานมาก ฟูลเซอร์วิส 5 ดาว น้ำซักแก้วยังไม่ได้เลย รู้สึกผิดหวัง

รีวิวสนามบิน
ช่วงที่เราบินเข้าฮ่องกง เหมือนบินเข้าหาพระอาทิตย์ ยอมรับว่าสวยมาก ช่วงที่หันหัวกลับ เหมือนปีกจะจมลงไปในน้ำ แล้วข้างล่างก็จะมีเรือประมง ลำเล็ก ลำใหญ่เยอะแยะ มีภูเขา มีหมอก แล้วรันเว จะเริ่มลงต่ำที่ทะเลเลย โอ้โห เสียวๆ ตอนนั้นก็คิดว่า นี่หรือฮ่องกง ตื่นเต้นๆ แต่อันนี้อ่ะตื่นเต้นจิ๊บๆ เดี๋ยวเจออีกดีมเอ๋ย




เค้าว่ากันว่า ฮ่องกง ตม โหด !!! จริง (อาจจะเพราะกับเรามั้ง)

คือต้องเล่าตั้งแต่ลงเครื่องเลย 
แบบพึ่งเดินออกจากประตูเครื่องบิน
เราเห็นมีผช ใส่เสื้อกั๊กเหลืองเยอะมาก ตอนแรกนึกว่าทัวร์ป่าววะ ก็เดินเฉยๆออกมา(คือตอนนั้นปวดฉี่) ซักพักนางก็กวักมือ ยูๆ เราก็ยิ้มๆละเดินไป เค้าก็ขอดูพาส เอ้าละ กุรู้ชะตากรรมละ 

- มาฮ่องกงครั้งแรกหรอ = ค่ะ
- มาทำอะไร = มาเที่ยว 
- กลับวันไหน = (คือเราจองตั๋วผ่านเอ็กพีเดีย มันจะแจ้งขาไปขากลับมันยังไม่แจ้ง ) เราก็เปิดๆละยื่นให้เค้าดู
- พักโรงแรมไหน = (เราก็เปิดมันทั้ง 3 โรงแรม)
*** ซักพักนางเปลี่ยนคน เป็นคนชุดดำมาคุยแทน ให้เด่าน่าจะตำแหน่งใหญ่กว่า
เปิดๆพาสเราไปมา เปิดสลิปที่เราเคยซื้อของมาดู
- ไปญี่ปุ่นไปทำอะไร = (เราพึ่งไปญี่ปุ่นมาเมื่อเดือนมค) ไปเรียนคอสระยะสั้น เราก็บอกไป
*** แล้วเราปวดฉี่มาก อั้นมาตั้งแต่ยุบนเครื่อง เราก็ถามว่าห้องน้ำอยู่ไหน ตม อีกคนก็มองหน้าเราดุๆ ละส่ายหัว อารมณ์ประมาณว่า ยูไปไหนไม่ได้  เราก็ยิ้มๆ ซักพักนางก็ปล่อยๆ รวมๆแล้วโดนสอบประมาณ 15 นาที คนอื่นเค้าไปหมดละ 


      เราก็เดินตามป้ายเพื่อจะไปเอากระเป๋า แต่ Hk Airline จะอยุ่ เทอมินอล 2 เราต้องไปเทอมินอล 1 ก็ไปรอรถไฟ มาทุก 2 นาที ช่วงเราไปคนเค้าไปหมดและ ก็โล่งหน่อย 



พอเข้ามาถึงปุ๊บ ก็ต้องผ่านตม เข้าเมืองอีก เราก็พยายามหาคนหน้าตา น่าจะใจดีที่สุด แต่ไม่ได้ช่วยอะไรเล๋ย โดนอีกค่ะ **เนื่องจากไม่ได้ปริ้นใบวันกลับไป แต่เอ็กพีเดียมันก็ไม่ได้แจ้งเรา 
และ E-mail ที่ใช้ส่งยืนยันเที่ยวบินก็เปิดไม่ได้ อันนี้เราโดนเรียกนั่งเลย

โดนตมเรียกรอบ 2
รอบนี้เราเจอผู้ญ ยิงคำถามรัวมาก โหดสุด จะร้องไห้ แต่ในใจคิดว่า ยังไงห้ามโดนส่งกลับไม่งั้นเราจะขาดทุนเสียเงินฟรี ก็ใจดีสู้เสือ 
- ยูมาทำอะไรที่ฮ่องกง = มาเที่ยวค่ะ
- มาคนเดียวหรอ = ใช่ค่ะ
- แล้วมีเพื่อนที่ฮ่องกงไหม = ไม่มีค่ะ 
- แล้วตั๋วเครื่องบินขากลับล่ะ ขอดูหน่อย = (คือเราเปิดเมลไม่ได้ แล้วในเอ็กพีเดียไม่แจ้งเรา เนตเราก็ไม่มีเราก็เลื่อนรูปในโทรศัพท์ พยายามหาที่แคปไว้ แต่ก็เจอแบบเสี้ยวๆ )
- แล้วโรงแรมล่ะ = ก็ยื่นให้ดู
- ทำไมเปลี่ยนโรงแรมทุกวัน = เราจองที่พักกับตั๋วพร้อมกัน เพราะมันมีโปร แล้วแต่ละวันโรงแรมราคาไม่เท่ากัน
- แล้วเราทำงานอะไร = เรียนอยู่นี่ๆ ก็ยื่นบัตรนศให้ดู แล้วก็ทำงานด้วย
- แล้วเอาเงินจากไหนมาเที่ยว = เงินที่หาเอง เราทำธุรกิจนี่ๆ แบบนี้ๆ ก็เปิดรูปให้ดู 
- ขอดูเงินหน่อย = เราก็เอาบัตรทุกบัตรที่มี เงินในซองมีเท่าไหร่ก็เอาออกมาหมดเลย ( ตอนนั้นคือจะร้องจริงๆ เพราะบางประโยคฟังไม่ทันเลย พอเค้าย้ำอีกน้ำเสียงก็จะดุๆ)
- ไปทำอะไรที่ญี่ปุ่นตั้งนาน = (เราก็ตอบเหมือนเดิมว่าไปเรียน)
- มีรูปโรงเรียนไหม = (นี่ก็นั่งหารูปในโทรศัพท์)
- คุณมีแฟนหรือป่าว = ไม่มี
- แล้วตั๋วขากลับเจอหรือยัง = ก็นั่งหาไป ให้เค้าดูที่แคปไว้ได้ส่วนหนึ่ง
- ห้ามทำงานนะ คุณเที่ยวได้อย่างเดียว = นี่ก็โอเค ละเดินออกมา


   คือพอเราเดินออกมาคิดว่าได้ละ สรุป กระเป๋าหายอีก คนอื่นๆที่มาลำเดียวก็ก็ไม่เจอแล้ว ไปถามพนักงาน นางก็ให้ไปดูจอ คือมันก็มาถึงนานละอ่ะ  เพราะเราออกจากตม ก็ 9 โมงเช้าเเล้ว  
สรุป ไปอยู่แผนกกระเป๋าค้าง ซวยไปอีก 1

ยัง ยังไม่จบ พอได้กระเป๋าเสร็จปุ๊บ จะพ้นประตูละ โดนอีก 
โดนตม รอบ 3 
โดนตรวจสแกนกระเป๋า เดินมาพร้อมกันเป็น 10 นี่โดนคนเดียว เฮ้อ 

*** เครื่องถึงตั้งแต่ 7.30 คือได้ออกตอน 9 โมงนิดๆ ตอนนั้นก็รู้สึกหดหู่




====================================================================


   แต่ก็นะผ่านมาละ ถึงเวลาออกจากเกาะสนามบิน โรงแรมที่จะเข้าพัก คือ
  The king Hotel Hongkong    ราคา 2200 /คืน
 (เราว่าที่นี่ดีที่สุดในบรรดา 3 โรงแรมที่เราไปพัก ห้องกว้าง วิวดี ทำเลย์ดี ราคาดี)
ตอนนั้นมันมีโปร เพราะจองผ่าน App Booking จ่ายตังค์หน้างาน 

พร้อมมัดจำอีก 500 ดอลล่าฮ่องกง   




จากสนามบิน เราซื้อบัตร Octobus (ราคาประมาณ 600 บาท)ใช้งานได้ 3 วัน 
นั่ง MTR ฟรี ไม่จำกัดรอบ
นั่งจากสนามบินมาลง Hongkong Station เปลี่ยนสายมาลง Yau Tong เดินมานิดนึงจะเจอสนามบาสโรงแรมอยู่ตรงนั้นเลย (ใช้ Google map หาเอา)







คือห้องน้ำมันเป็นกระจก เวลาเราเข้ามันจะเห็นตัวเองอ่ะ แอบเขิน ก็เอาม่านห้องน้ำมาปิดเอา 5555 ห้องน้ำที่นี่มีที่ฉีดตูดนะ (คนที่เข้าห้องน้ำแล้วต้องใช้ที่ฉีด มานอนที่นี่เลย เพราะที่อื่นมันไม่มี จีจี )


เรื่องปลั๊กไฟ มันเป็น 3 หัว อีนี่ไม่ได้อ่านมา ดีที่โรงแรมเค้ามีให้  



เช๊คอินเข้าโรงแรมเสร็จก็ออกเที่ยวหาของกิน ตอนนี้ง่วงมากนะ แต่ไปเที่ยวดีกว่าา ระหว่างทางไป MTR เดี๋ยวเราจะไปดูแม่น้ำที่มันดังๆอ่ะ 
โรงแรม The king Hotel จะอยู่ใกล้ Mongkok เดินไปได้เลย ตอนกลางคืน คึกครื้นมาก ผู็ชาย ผู้ญ หน้าตาดีเดินกันตรึม 



Tsim Sha Tsui  Station






ไอติมถูกดี แต่ไม่หวานเลย เคยดูในไอจี มันมีร้านนั่งเล่น นั่งชิลเยอะนะ แต่พอมาเดินจริงๆ ไม่เห็นจะเจอ หรือเดินผิดซอยก็ไม่รู้



เดินเสร็จก็หาร้านกินข้าว ตอนนั้นช่วงเที่ยงพอดี อ่านเมนูไม่ค่อยเข้าใจว่ามันคืออะไร ขอเป็นหมูก็พอ 
(สรุป ไม่อร่อย กินไม่หมด หมูเหนียว ดัดฟันกัดไม่ได้)
คิดตังค์เข้าโรงแรมพักก่อน ค่อยว่ากันใหม่



พอเข้าโรงแรม สรุปนอนไม่หลับ ก็กดดูนู่นนี่จนเย็น ตกเย็นแวะไปเดิน Mongkok แปบนึง ละก็นั่ง MTR มานี่เลย Central (ข้ามจากเกาะเกาลูน มาเกาะฮ่องกง) ขึ้นชื่อว่าย่านเที่ยวอ่ะ แล้ววันนี้มันวันศุกร์ 
ขึ้นชื่อว่าดีม ไม่จัดไม่ด้ายยย



เราเตรียมเสื้อผ้ามาเยอะมาก บูธ ส้นสูง กะแต่งเต็มที่ แต่ !!! คุณจะแต่งเต็มได้ต่อเมื่อมาเที่ยวย่านนี้เท่านั้น (เพราะที่อื่นเค้าใส่กางเกงยีนส์ ผ้าใบหง่ะ) 
 บอกตรงๆว่าฟิลลิ่งดีมาก เพราะอยู่บนรถไฟ ฝรั่งก็เยอะ เกาหลีก็มี เดิน 2 ก้าวเจอคนหล่อที  แล้วยิ่งที่นี่นะ โอ้โห นึกว่าอยู่บนรันเวย์ หุ่นดี หล่อ มีทุกชาติ เลือกมองเลย 



ประเดิมร้านแรก The Woft Market ก่อนจะเดินเข้าร้านนี้ ก็เดินเล่นดูร้านมาซักพัก แต่ร้านนี้มันไม่ค่อยพลุกพล่าน ก็เลยลองงดู 
สั่งคอกเทลแก้วนึงก็ประมาณ 89 ดอลล่าฮ่องกง ร้านนี้วิวดีสุดละ เห็นแทบทุกร้าน





ต่อร้าน 2 อันนี้วิวข้างล่าง อย่างที่เห็นมีหมด หนุ่มชุดทำงาน สูท ไม่สูท ฝรั่งเกาหลี ยั้ยเยี้ย คนที่นี่เที่ยวกันดึก เพราะมันปิดตี 4 


ร้าน 3 ขายเป็นชอต  5 ชอต 99 ดอลล่าฮ่องกง กินไม่หมดอหง่ะ แบ่งให้คนข้างๆไป 5555 
(จะบอกว่า ตอนดื่มนี่พูด Eng ลื่นมากนะ say hi กันว่าเล่น)
คนที่นี่ไม่ค่อย แอ๊วเอินกันนะ ถ้าเราไม่เล่นหู เล่นตาก่อน ผญ คนเดียวเที่ยวได้ แต่อย่าเมาแค่นั้นพอ
(อ่อ เค้ามีตรวจบัตร ก็พกพาสปอร์ตไปด้วย)

ถือว่าผ่าน ดนตรีมันส์ มีหลายสไตล์ ร้านชิล ร้านแจ๊ส ร้านร๊อค ร้านEDM เลือกเข้าเลยจ้า

ตี 2 กลับโรงแรมนอน 


====================================================================

Day 2 ย้ายโรงแรม 

Fortress Hill Station

โรงแรมคืนที่ 2 Iclub Fortress hill เต็ม 10 ให้ 2 อ่ะ ประมาณ 3200/คืน 
แพงมาก ห้องเล็กมาก ทำเล แย่มาก
(มีค่ามัดจำ 500 ดอลล่าฮ่องกง)



นั่ง MTR มาลง สถานี Fortress Hill ถึงเลยเดินไม่ไกล







เช๊คอินเข้าห้องได้ตอนบ่าย 2 แต่ฝากกระเป๋าไว้ได้ 
ที่นี่ห้องเล็กมากนะ ห้องน้ำก็เล็ก ของก้มีให้ไม่ครบ ห้องน้ำไม่มีที่ฉีดตูด 
ส่วนหน้าต่าง วิวเป็นอีกตึกนึงอ่ะ หน้าต่างแทบจะชนกัน


ระหว่างที่รอเช๊คอินก็แวะไปเดินเล่น Jordan Mongkok บ้าง แล้วกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปดูแสงสีที่แม่น้ำเฮอบอนต่อ 


นั่ง MTR มาลง สถานี Tsim sha sui เดินตามถนนโล่งๆไปเลย แปบเดียวเจอ





วันนี้หมอกลงเยอะมาก แต่ก็สวยดี ก็ไม่มีอะไรเลย 55555 ธรรมดา แต่บางคนอาจจะชอบ ดูเสร็จก็กลับโรงแรม โคตรง่วง 



แถวนี้ สองทุ่มก็ไม่มีอะไรกินแล้ว สาร์บัคก็เปิดถึงแค่ 5 ทุ่ม อาหารก็ไม่อร่อยไม่รู้จะกินไร
เลยเดินเข้าร้านนี้แหละหวังจะกินแค่น้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋



เราสั่งไปแค่นั้นจริงๆ แต่พนักงานบอกว่า ยูสั่งน้อยเกินไป ตอนนั้นจำได้ว่าสั่งไป 46 $ ละนะ สรุปได้อย่างที่เห็น มันไม่อร่อยเลย กินได้เท่านี้ละสั่งเช๊คบิน พนักงานก็ทำหน้าไม่พอใจ 
(แอบนอยๆ ทำไมต้องบังคับสั่ง)




ที่นี่จะมีบริการชา กาแฟ นมสด ซีเรียลบริการตลอด แล้วก็มีลานให้นั่ง มีเพลงฟัง ไปนั่งแปบนึง ขึ้นห้องก็นอนไม่หลับอยู่ดี 
(บรรยากาศมันโคตรเหงานะจริงๆ เที่ยวฮ่องกงยังไงให้มันส์ ตอนนั้นก็คิดแบบนี้นะ)





ตื่นปุ๊บ เก็บของ เช๊คเอ้า ไปอีกโรงแรม คืนสุดท้ายแล้ว


============================================================


Day 3 ย้ายโรงแรม

Sai Ying Pun

จำชื่อโรงแรมไม่ได้ แต่จำได้ว่าจองมาพร้อมกับตั๋ว
ทำเลไม่ค่อยมีอะไรให้เที่ยว แต่อยู่ใกล้ MRT  
ห้องกลางๆ วิวพอได้ ห้องน้ำไม่มีที่ฉีดตูด 
ยังไงก็ยังแพ้ The king Hotel




ออกจากสถานีก็จะเจอแบบนี้ อารมณ์อยู่บนเขา


ทางลัดไปโรงแรม โรงแรมจะอยู่ซ้ายมือ



รอเช๊คอินบ่ายสอง เอากระเป๋าไปฝากไว้เหมือนเดิม เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นต่อ



North Point










บรรยากาศโคตรเหงา ครึ้มทั้งวัน ฝนก็ตกปอยๆ หนาวก็หนาว ไม่ได้ขอให้ใครถ่ายรูปให้ เอารูปครึ่งหน้าไปก่อนนะ 5555+


ไปต่อสิจ๊ะรอไป  Next Station ตลาดดอกไม้ 

Prince Edward

ตลาดดอกไม้ ถูก สวย นั่งจาก North Point ก็หลายสถานีอยู่ นั่งรถไฟเพลิน 
รถไฟที่นี่เหมือนลมมันเข้ามาในรถได้อ่า นั่งไปลมก็ตีหน้าไป เย็นดี










ซื้อดอกไม้เสร็จ ก็นั่งรถไฟกลับโรงแรมเพื่อเช๊คอิน อยากเห็นห้องละ 









ตอนแรกลืมถ่าย พึ่งนึกได้ อ๊ะถ่ายหน่อยละกัน  จริงๆหน้าต่างกว้างนะ ถ้าเปิดม่านก็ไม่ค่อยอึดอัด
พอถึงห้องก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปต่อจ่ะ Go Go !!


Causeway Bay 

ทั้งฮ่องกง ชอบย่านนี้สุดแล้ว เหมือนอยู่ญี่ปุ่น เหมือนอยู่สยาม ดูทันสมัยดี 
ของกินเยอะ (แต่ไม่เท่า Mongkok)






ชอบคาเฟ่ร้านนี้นะ เพราะอะไรก็ดูรูปเอา 5555
ร้านนี้ขายข้าว อาหาร เหล้า ครบ บรรยากาศดี ลอฟๆหน่อย




อร่อยแค่ด้านบน ข้างล่างเป็นแป้งล้วนๆ มีน้ำผึ้งให้ กินไม่หมดเหมือนเดิม จริงๆหิวมากนะแต่ของกินที่นี่ไม่อร่อยจริงๆ ของหวานก็ไม่หวาน 


วันนี้เด็กดีกลับโรงแรมไว  ไม่รู้จะไปไหนด้วย (ไม่ได้หาที่เที่ยวไว้ก่อนมา)



นอนไม่หลับอีกเหมือนเดิม จริงๆวันนี้สภาพจิตใจแย่มากนะ คลอคุยกับพี่แอมตั้งแต่เย็นยันตี 3 
ขอบคุณพี่มาก ถ้าพี่ไม่คุยกับดีม ดีมก็ไม่รู้จะทำยังไง 






6 โมงเช้า เตรียมเก็บของ เช๊คเอ้า และไปเที่ยวต่อ 
ทุกครั้งเวลาเราไปเที่ยวที่ไกลๆ เราจะส่งโปสการ์ดหาตัวเอง 
วันไหนที่เรารุ้สึกเหนื่อย หยิบมาดูจะได้รู้ว่าวันนั้นที่เราอยู่ตรงนั้นมันมีความสุขขนาดไหน


วิธีหาไปรษณีย์ Google map พิม Post  ละเดินตามแมพ 






ตู้ขายสแตมอัตโนมัติ




แถวนี้เข็นกระเป๋าเดินทางยากมาก พูดเลย พอส่งการ์ดเสร็จ เน็ตดันหมด แล้วจะเที่ยวยังไง 
เน็ตโรงแรมก็ใช้ไม่ได้เพราะเช๊คเอาน์แล้ว 
(โรงแรมที่นี่จะไม่ปล่อยสัญญาณฟรี คือ 1 ห้องต่อ 1 รหัส และต้องเล่นที่ห้องตัวเอง เอ่ววว)



เลยแวะเข้า Starbucks แต่.. wifi จำกัดเวลา ไม่ปล่อยฟรีโหวยยยย มันให้เล่นแค่ 15 นาทีๆๆๆๆ



ดีที่ยังไม่ทิ้งใบนี้ เลยกดทำใหม่ ใช้เนตได้เหมือนเดิม
(ถ้าไปเองก็อย่าพึ่งทิ้ง หรือถ่ายรูปไว้ กันพลาด แต่เนตยี่ห้อนี้แรงนะ)



เสร็จแล้วก็หาที่เที่ยวจ้า ไม่มีแพลนไปหาเอาข้างหน้า 5555


คู่รักที่นี่ เค้ามุ้งมิ้งโคตร โรแมนติกไปอีก  ถ้ามีบ้างก็คงดีอ่ะ 555 


              

              

              


ต้องเลือกละ เพราะบินกลับเที่ยงคืนวันนี้ ต้องทำเวลา 
ที่เที่ยวเยอะแยะ ตาแป๊ะขายถั่ว ตอนนั้นคือ สุ่มจากรูปค่ะ แล้วก็เดินเข้ารถไฟ ไปจ้าาา
หลงค่อยว่ากัน



จิ้มที่แรกได้วัด Che Kung จ้า ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันดังไหม แต่อยากไปขอพร 
แต่ว่าหิวเลยแวะหาของกินที่  Causeway Bay 

Sai Ying Pun >  Causeway Bay 




ไม่อร่อย



                  Causeway Bay  > Nortpoint > Yau Tong > Kowloon Tong > Tai wai > Che Kung  



อารมณ์แบบ ออกต่างจังหวัด 


มาเปลี่ยนสายรถไฟสถานีนี้ เป็นสานีที่ใหญ่นะ แล้วก็อยู่ข้างนอก เห็นภูเขา เยอะดี 




ถึงแล้ววว มีแต่ป่าๆๆ ภูเขา แต่ก็ดูโล่งตา กว่าในเมืองเยอะ แต่ประเด็น Google map มันหาวัดไม่เจอ เดินหานานมากอ่ะ แล้วมันก็สี่โมงเย็นแล้ว 



ต้องมาทางนี้ ออกทางด้านหน้าสถานี ข้ามไฟแดง เลี้ยวขวา เดินตรงไปเรื่อยๆเจอวัดเลย 



มีขายทางเข้าวัด ราคาก็สูงอยู่ แต่มีขนาดเล็ก ใหญ่ เครื่องเคียงเยอะมาก ไม่รู้ว่าไหว้ยังไงให้หมด 555
ที่วัดนี้จะมีไกน์นะ เค้าถามเลยว่าคนไทยไหม ก็แนะนำเราคร่าวๆ ก็ไปคลำๆเอา


 

เสร็จแล้วก็เข้ามาไหว้ข้างใน นั่งตรงนี้นานมาก เพราะรอป้าข้างๆ เขย่าเซียมซี เขย่า 1 รอบไม้ตก จดเลข ทำ 3 รอบ แล้วยังไม่วางกระบอกเลย จนมีอีกคนมา แล้วถือกระบอกอันใหม่มา เราก็รอเค้าทำ จนเค้าทำเสร็จ ก็เดินลุกออกไปพร้อมกระบอก 
อ้าวแล้วฉันล่ะ รออยู่นะนิ เลยลุกเดินตามไป
ได้ใจความว่า ต้องไปเช่าข้างนอก 20$ เสี่ยงเสร็จเอามาคืน ได้ตังกลับ 
จริงๆก็อ่านคำทำนายไม่ออกหรอก แต่อยากเสี่ยงดู





หลังจากจ่ายตังค์ค่ากระบอก ก็เจอนี่ ปีชง ฮั่นแหน่ มีภาษาไทยด้วยยยย ก็ชงอ่ะ จัดซักหน่อย



คนขายย้ำว่า ต้องกินเม็ดนี้นะ จะโชคดี เครื่องรางเต็มเลย ก็เอาใส่เป๋า ไหว้เสร็จก็กลับเข้าเมือง


Mong kok

ของกินเยอะมาก ห้างเยอะ ร้านค้าเยอะ คนเยอะ ช๊อปปิ้งที่นี่ ที่เดียวจบเลย
แต่ตอนกลางวันไม่ต้องมานะ ร้านปิด จะเปิดประมาณบ่ายสอง
ใครมานี่มีสิทธ์ ล้มละลายอ่ะ นี่ก็เดินเข้าที่ร้านนะ ซื้อบ้าง เทสบ้าง 




มันเป็นชูครีมที่อร่อยมาก ไม่หวานเกิน มะม่วงนี่นะ หืมมม สุด


อันนี้ก็อาย่อย เราน่าจะเจอกันตั้งแต่วันแรก T_T


ร้านนี้เค้าบอกเด็ด แต่ไม่ได้ซื้อ เพราะอิ่มและ พิกัด ทางเดินไป Shop Zara


คสอ ที่นี่ถูกกว่าพรีจากเกาหลีมาไทยหน่อยนึง อย่างลิป ถูกว่าพรีเองประมาณ 100 บาท 


อยากซื้อแต่คิดว่า คงได้แต่ใส่นอน เลยจัดรองเท้ามาแทน มันเซล Zara ฮ่องกงราคาไม่ต่างจากไทยนะ ถ้าจะซื้อ ซื้อแบบที่ในไทยไม่มี 


หลังจากนี้ก็เดินเข้าทุกร้านอ่ะ Shop เสื้อผ้าทุกช๊อป ไปดูของ นู่นนี่นั่น 
อากาศก็ดี คนก็ดี จะกลับแล้วนะ ดีมเอ้ย 


Neat Station 

Jordan

สถานีนี้เน้นของกินแบบโต้รุ่ง กับตลาดคล้ายๆ สัมเพ็ง แต่ของก็ไม่ได้ถูกอะไร 
ถนนเส้นเดียวกับ Mongkok เดินหากันได้



เราเดินตาม ฝรั่งขวามือ มาซักพัก ไม่ได้โรคจิตนะ แต่สงสัยไปทางเดียวกัน เป้ใบ กล้องตัว ถ่ายนู่นนี่ คงมาอารมณ์เดียวกัน ก็ชิลๆดี 
เราเดินเล่นซักพักก็กลับโรงแรมไปเอากระเป๋า 
เตรียมตัวไปสนามบิน



ระว่างที่เดินทาง เราก็คิดนะ ว่าเรามาฮ่องกง รอบนี้ มีอารมณ์แอบคิด
" ว่าจะไม่ไปเที่ยวตปท คนเดียวแล้ว ไม่ชอบบางอารมณ์ ที่มันอาจทำให้เรารู้สึกแย่ แต่ไม่มีใครอยู่ข้างๆ มันรู้สึกเหงามาก แต่พอวันนี้ วันที่เรากำลังจะกลับ เราก็เปลี่ยนความคิดใหม่ 
อย่าให้ใครมาเปลี่ยนความชอบของเราสิ ความสุขของเรามันเป็นแบบนี้ 
ไปที่ ๆ เราอยากไป เจออะไรใหม่ สังคม การเป็นอยู่ แค่ได้เดินเล่นตามถนน เราก็มีความสุขแล้วอ่ะ "


จากโรงแรม นั่งมาสกานี Central นั่งยาวๆไปสนามบิน MTR ที่นีมี 2 สถานี ที่เชื่อมไปสนามบิน คนน้อยมากได้ฟิลคนละแบบ เพราะขามา มันตอนกลางวันเห็นชาวประมงด้วย ดูพื้นบ้านดี




มาถึงก่อนเวลา นั่งรอเช๊คอิน เช๊คอินเสร็จก็นั่งรอนี่แปบนึง เพราะเครื่องออกตีสองอ่ะ 
ถึงสนามบินเที่ยงคืน เวลาโคตรเหลือ ตอนนี้ง่วงมากนะเพราะไม่ได้นอนมา 3 วันละ



เป็นนมที่อร่อยสุดในฮ่องกงแล้ว 5555 หาซื้อได้ที่ มินิมาช



มีเพื่อนคนนึงชื่อหยก มันชอบปากกาแบบนี้มาก เวลาไปไหนก็จะซื้อมาฝากถ้าไม่ลืม + ตังค์เหลือ แต่รอบนี้ร้านมันปิดหง่ะ


บางทีก็คิดว่าเกตมันเยอะไปนะ แล้วไม่ใช่ว่าทุกเกต จะอยู่ในหลังคาเดียวกัน ของเรานั่ง Hongkok Airline ต้องไป Terminal 1 นั่งรถไฟไปอี๊ก



Terminal 1 คนน้อย ที่นั่งดี มีที่ให้ชาร์ตไฟ เยอะมาก ตอนรอขึ้นเครื่อง ได้นั่งใกล้ๆกัปตันด้วยอ่ะ หล่อมากกกก แถมขับเครื่องชั้นด้วยนะเออ



ไม่รู้เวรกรรมอะไร มาเที่ยวคนเดียว ยังต้องได้บินคนเดียว ส่งใครซักคนมานั่งข้างๆกันหน่อยเถอะ แล้วขากลับเครื่องโล่งมาก เครื่องโบอิ้งลำใหญ่สุด บอกเลยว่า เครื่องยังไม่ทันออก หลับค่ะ ตื่นมาอีกที เวลคัมทูไทยแลนด์ 555555





ความรู้สึกต่อทริปนี้ 
" ไม่อินกับประเทศเค้าซักเท่าไหร่ รู้สึกแย่ตั้งแต่โดนตม แต่รวมๆ ผญ คนเดียวเที่ยวได้สบาย แต่ต้องเซฟตัวเองมากๆๆๆๆๆ 
 และมันจะเหงาๆหน่อยนะ  ได้ฟิลลิ่งทุกรสชาติเลย  และก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายที่ได้มาที่นี่ เราเสพติดการเที่ยวคนเดียวไปเลย  
ประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในหนังสือ และ youtube 
ลองซักครั้งเถอะ เชื่อเรา "


Hongkong สุขไม่สุด แต่ ... เราก็มีความสุขนะ



























Popular Posts

Sidebar Ads